กลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่กำลังสร้างความแปลกใจให้กับชาวเน็ตหลายๆ คนไปแล้ว
เมื่อในวันที่ 8 มิถุนายน 2021 ที่ผ่านมาบนเว็บไซต์ของสำนักข่าวชื่อดังอย่าง “New York Times” จู่ๆ ก็มีการตีพิมพ์บทความสุดประหลาด ที่มีหัวข้อข่าวว่า “มีทุ่งแตงโมถูกค้นพบบนดาวอังคาร” เสียอย่างนั้น
บทความที่ว่านี้แน่นอนว่าไม่นานก็ถูกลบออกไปจากตัวเว็บไซต์ อย่างไรก็ตามด้วยความเร็วของชาวเน็ต หน้าข่าวดังกล่าวก็ถูกบันทึกเอาไว้อย่างครบถ้วน และเนื้อหาด้านในก็สร้างความแปลกใจให้หลายคนไม่น้อย
โดยในบทความนี้ทาง New York Times ได้ระบุเนื้อหาไว้ว่า
“มีทุ่งแตงโมถูกค้นพบบนดาวอังคาร เจ้าหน้าที่อ้างการปรากฏตัวของแตงโมจำนวนมากเหล่านี้ อาจมีที่มามาจากเอเลี่ยนผลไม้
ในปัจจุบัน FBI ไอปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานของแตงโมที่ตกลงมาราวกับฝนนี้ แต่พวกเขาก็แต่ยืนยันว่ากีวีได้ถูกสกัดกั้นแล้ว… เรื่องนี้น่าเบื่อชะมัด”
ชมบทความที่ได้รับการบันทึกไว้ได้ ที่นี่
บทความด้านบนนี้ หากเราเข้าไปชมในเวลานี้ เราจะพบแค่หน้าเพจเปล่าๆ ที่มีข้อความว่า “ก่อนหน้านี้บทความจำลองที่มีไว้สำหรับระบบการทดสอบ เคยถูกเผยแพร่โดยไม่ได้ตั้งใจในหน้าเพจนี้” ซึ่งแสดงให้เห็นได้เป็นอย่างดีว่าบทความที่ออกมาไม่ใช่ข่าวจริงๆ
อย่างไรก็ตามด้วยความแปลกของหัวข้อและเนื้อหาข่าวที่ออกมา มันก็ทำให้มีผู้คนไม่น้อยเลยที่ให้ความสนใจอย่างมากกับข่าวที่บังเอิญออกมานี้
นั่นเพราะในวงการข่าวแล้ว มันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่นักข่าวจะมีการเขียนแบบร่างของข่าวต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้จริงๆ ในอนาคตเอาไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นข่าวคนดังเสียชีวิต หรือความการค้นพบต่างๆ ที่พวกเขาทราบจากวงในแต่ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ
ซึ่งในกรณีของ New York Times ผู้เชี่ยวชาญก็คาดว่าพวกเขาอาจจะมีข่าวเตรียมไว้ในรูปแบบนี้มากมายถึง 1,800 บทความเลย
.
ดังนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นจึงทำให้ผู้คนคิดกันไปต่างๆ นานา ว่า New York Times อาจจะได้รับรู้ถึงข้อมูลอะไรบางอย่างเกี่ยวกับดาวอังคารมาหรือไม่ เพราะจู่ๆ การจะเตรียมข่าวการค้นพบแตงโม “เผื่อไว้” มันก็ดูจะไม่ค่อยสมเหตุสมผลนัก
ถึงอย่างนั้นก็ตามมันก็มีความเป็นไปได้สูงที่ข่าวในครั้งนี้จะเกิดขึ้นเพียงเพราะ ใครบางคนฝึกใช้ระบบจัดการเนื้อหาข่าวและเผลอเผยแพร่บทความไร้สาระจริงๆ เช่นกัน
แต่ไม่ว่าจะเป็นทางไหนเราก็คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแนวคิดที่ว่ามีทุ่งแตงโมถูกพบอยู่บนดาวอังคารนั้น มันถือเป็นเนื้อหาข่าวที่น่าสนใจอย่างไม่น่าเชื่อเลย
ที่มา iflscience และ futurism