ตามปกติแล้วเมื่อเราพูดถึงปัญหาเกี่ยวกับงานแม่บ้าน เชื่อว่าภาพลักษณ์ในใจหลายๆ คนก็คงจะไม่พ้นงานที่เงินเดือนน้อยขึ้นมาเป็นอย่างแรก อย่างไรก็ตามที่ประเทศสิงคโปร์ในปัจจุบัน ดูเหมือนว่าปัญหาของอาชีพแม่บ้านที่นั่นจะตรงข้ามกับที่ไทยพอควรเลย
นั่นเพราะแทนที่จะมีปัญหาเงินเดือนน้อย ในปัจจุบันแม่บ้านที่สิงคโปร์จะกำลังอยู่ในช่วงเรียกเงินเดือนสูงกว่าที่ควรจะเป็น แถมหลายๆ คนยังเริ่มที่จะมีเงื่อนไขการทำงานแบบแปลกๆ เต็มไปหมดอีก
เรื่องราวในคราวนี้เกิดขึ้นจากปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด 19 ในประเทศสิงคโปร์เอง ซึ่งมีนโยบายระงับการรับแรงงานที่มาจากที่มีความเสี่ยงโควิดสูง ส่งผลให้อาชีพอย่างแม่บ้าน ที่ปกติไม่ค่อยมีคนในประเทศทำ กลายเป็นที่ต้องการอย่างมาก
ความต้องการนี้ทำให้ผู้ที่ทำอาชีพแม่บ้านจากต่างชาติที่ยังคงในประเทศมีทางเลือกมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนถึงขนาดที่ในโลกออนไลน์มีนายจ้างออกมาเปิดเผยว่าเมื่อตนสัมภาษณ์งานกับสาวใช้รายหนึ่ง
สาวใช้รายนี้ก็เรียกร้องเงินเดือนสูงถึง 900 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 21,000 บาท) จากที่เดิมทีเงินเดือนเฉลี่ยแม่บ้านมีประสบการณ์จะอยู่ที่ 700 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 17,000 บาท) แถมยังต้องการวันหยุดอย่างน้อย 2 วัน จะไม่ล้างรถให้ และที่สำคัญจะถูบ้านให้แบบวันเว้นวันเท่านั้น
เงื่อนไขมากมายเช่นนี้แน่นอนว่าต้องทำให้การเจรจาล้มเหลวเป็นธรรมดา อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่านายจ้างรายนี้จะไม่ใช่นายจ้างเพียงรายเดียวที่ประสบกับปัญหาค่าแรงที่เพิ่มขึ้น
นั่นเพราะมีนายจ้างไม่น้อยเลยที่ต้องพบปัญหาแม่บ้านขอขึ้นเงินเดือนเยอะๆ เนื่องจากความต้องการในปัจจุบันพุ่งขึ้นเป็นถึงแม่บ้าน 1 คนต่อนายจ้าง 10 คนเลย
และนั่นก็ทำให้แม้แต่บริษัทจัดหาแม่บ้านเองยังออกมาเปิดเผยเลยว่า ในปัจจุบันแรงงานต่างประเทศที่ยังคงเหลืออยู่ในระบบก็ไม่เกรงกลัวที่จะเพิ่มค่าแรงของตัวเองแล้ว
เนื่องจากหลายๆ คน มองว่างานแม่บ้านถือว่ามีฐานเงินเดือนค่อนข้างต่ำ (ซึ่งหากมองว่าเงินเดือนเฉลี่ยคนที่นั่นอยู่ที่ราวๆ 130,000 บาทมันก็ถือว่าค่อนข้างต่ำจริงๆ) แม้ว่าบางครั้งพวกเขาจะมีคุณสมบัติ “ไม่เหมาะสม” ก็ตาม
นี่นับว่าเป็นปัญหาใหญ่อย่างไม่น่าเชื่ออีกเรื่องเลยก็ว่าได้ เพราะการที่แรงงานถูกกฎหมายสำหรับงานแบบแม่บ้านมีราคาแพงเกินไปเช่นนี้ มันก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกที่นายจ้างบางส่วนจะเริ่มหันไปใช้แรงงานผิดกฎหมายที่ราคาถูกกว่ามาก
ดังนั้นในปัจจุบันทางรัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมจึงต้องออกมายืนยันเลยว่าพวกเขาจะเปิดโอกาสให้แรงงานจากต่างชาติมีโอกาสเข้ามาทำงานในประเทศได้มากขึ้นในอนาคต
แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามการเปิดโอกาสที่ว่าก็จะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของสถานการณ์โควิดในประเทศนั้นๆ อีกที
ที่มา kapook, channelnewsasia และ asiaone