สำหรับเหล่านักดำน้ำที่ออสเตรเลียตลอดช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาพวกเขาได้พบเรื่องราวประหลาดเกี่ยวกับงูทะเลอยู่บ่อยครั้ง เพราะเมื่อเหล่านักดำน้ำพบกับงูทะเลพวกมันก็มักจะเข้ามาพันตามแขนหรือขา เลียพวกเขา หรือแม้แต่ไล่ตามพวกเขาใต้น้ำ
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ตามปกติก็มักจะไม่มีผลร้ายมากมายอะไรนักนอกจากความตื่นตกใจ แต่ในบางครั้งมันก็อาจนำไปสู่การที่งูทะเลกัดนักดำน้ำได้เช่นกัน
ดังนั้นทีมนักชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยแมคควอรี่ ซึ่งนำโดยคุณ Rick Shine จึงได้ตัดสินใจออกมาไขปริศนาเรื่องประหลาดนี้ และสิ่งที่เขาพบก็เรียกได้ว่าแปลกใช่เล่นเลยด้วย
เพราะหลังจากที่พวกเขาใช้เวลาหลายปีในการสำรวจแนวปะการังเกรทแบริเออร์รีฟ และพบเจองูทะเลแปลกๆ แบบนี้ไปกว่า 158 ครั้ง
นักวิทยาศาสตร์ก็พบว่าเรื่องแบบนี้แทบจะทั้งหมดล้วนแต่จะเกิดขึ้นในช่วงผสมพันธุ์ของงูทะเลทั้งสิ้น แถมงูที่ทำเรื่องส่วนใหญ่ก็มีแต่ตัวผู้ด้วย
ซึ่งนั้นก็ทำให้พวกเขาสรุปผลการตรวจสอบว่า ที่งูทะเลจู่ๆ ก็เข้ามา “จู่โจม” นักดำน้ำนั้น แท้จริงเป็นเพราะมันกำลังติดสัดมีความต้องการผสมพันธุ์ และพวกมันแค่เข้าใจผิดว่านักดำน้ำเป็นงูทะเลตัวเมียนั่นเอง!!
นี่อาจจะเป็นอะไรที่ฟังดูแปลกว่าเพราะอะไรงูทะเลจึงเข้าใจผิดเห็นคนที่ตัวใหญ่กว่าขนาดนั้นเป็นงูทะเลตัวเมียได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วเรื่องนี้มันก็มีเหตุผลรองรับที่ดีอยู่
นั่นเพราะจากรายงานของทีมวิจัย สัตว์ตระกูลงูทะเลนั้น จริงๆ แล้วอาจมีดวงตาที่แย่อย่างไม่น่าเชื่อ พวกมันแทบไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างรูปร่างใต้น้ำได้ โดยเฉพาะในกรณีที่น้ำสกปรก
ดังนั้นเพื่อที่จะแยกแยะสิ่งที่มันเห็นอีกทีงูทะเลจึงต้องอาศัยการรับกลิ่นด้วยลิ้นเป็นหลัก ส่งผลให้พวกมันต้องเข้ามาใกล้นักดำน้ำมากๆ เพื่อตรวจสอบว่าสิ่งที่เห็นคืออะไร และบางครั้งก็ถึงขั้นเลียพวกเขาโดยตรงเลย
นับว่าเป็นโชคดีมากที่ต่างไปจากงูหลายชนิดบนบกงูทะเลโดยเฉพาะงู Olive Sea Snake นั้นตามปกติจะแทบไม่กัดใครก่อนเลย และจากในรายงานคนที่ถูกมันกัดก็ล้วนแต่จะเป็นคนที่ตกใจกลัวจนพยายามลากมันขึ้นจากน้ำเท่านั้น
ดังนั้นทีมนักวิจัยจึงแนะนำว่าในกรณีที่คุณโดนงูทะเลว่ายมาใกล้การปล่อยตัวให้สบายและอยู่นิ่งๆ ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด นั่นเพราะท้ายที่สุดแล้วงูทะเลเหล่านี้ก็แค่เข้าหาคุณเพราะความเข้าใจผิดเท่านั้นเอง
ที่มา livescience, bbc, nytimes, the-scientist