มันเป็นเรื่องที่แทบทุกคนทราบกันเป็นอย่างดี ว่าโลกของเรานั้นโดยรวมๆ แล้วมีรูปร่างกลม ซึ่งเคยได้รับการพิสูจน์มาหลายต่อหลายครั้ง ไม่ว่าจะด้วยการเดินทางรอบโลกโดยบอลลูน หรือการปล่อยจรวดของทางนาซา
แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม ก็ยังคงมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งในโลกอยู่ดี ที่เชื่อฝังหัวว่าโลกนั้นจริงๆ แล้วแบนและเป็นศูนย์กลางของจักรวาล แถมยังพยายามทุกวิถีทางที่จะพิสูจน์แนวคิดของตัวเองด้วย
และนั่นก็นำมาซึ่งเรื่องราวสุดประหลาดในครั้งนี้ เมื่อชายจากกลุ่มโลกแบนคนหนึ่งพยายาม ทำการทดลอง “พิสูจน์ว่าโลกแบน” แต่ดันกล่ายเป็นว่าประสบความสำเร็จในการ “พิสูจน์ว่าโลกกลม” เสียอย่างนั้น
เรื่องราวในครั้งนี้ถูกนำมาเผยแพร่เป็นครั้งแรกในคลิปสารคดี Netflix ชื่อ Behind The Curve ซึ่งเป็นสารคดีเกี่ยวกับแนวคิดของชุมชนกลุ่มโลกแบน ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะกลายเป็นกระแสไวรัลบน Reddit และโลกออนไลน์
วิดีโอการทดลองจาก Reddit
โดยในวิดีโอ จะเห็นได้ว่าหนุ่มโลกแบนรายนี้ทำการทดลองพยายามพิสูจน์ว่าโลกแบนด้วยการฉายแสงผ่านรู 2 รูที่อยู่ห่างกันแต่มีระดับความสูงจากน้ำทะเลเท่ากัน
ภายใต้แนวคิดที่ว่า “หากโลกแบนจริงๆ” แสง (ที่เดินทางเป็นเส้นตรง) ซึ่งผู้ช่วยของเขาฉายออกไปจะถูกกล้องจับภาพได้แบบพอดิบพอดี
ปัญหาคือในการทดลอง พ่อหนุ่มคนนี้กลับพบว่าการจะทำให้กล้องเห็นแสงที่ฉาย ผู้ช่วยของเขาจะต้องยกแสงให้สูงกว่าระดับความสูงจากน้ำทะเลของกล้องเล็กน้อย
ซึ่งเป็นผลการทดลองที่จะออกมาในกรณีที่ “โลกกลม” จนตำแหน่งที่คนยืน มีผลกระทบต่อการจับภาพเดินทางของแสงที่เป็นเส้นตรงนั่นเอง
น่าเสียดายที่แม้ว่าพบการทดลองจะออกมาเช่นนี้ ชายคนดังกล่าวก็ดูจะยังคงเชื่อไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ดีว่าทฤษฎีโลกแบนของเขานั้นถูกต้อง
ดังนั้นมันจึงน่าสนใจไม่น้อยเลยว่า ชายคนนี้จะคิดการทดลองแบบไหนขึ้นมาอีก เพื่อยืนยันแนวคิดโลกแบนของตัวเอง
ที่มา independent, unilad และ reddit